สะพานพระราม 8 - สะพานพระราม 8 นิยาย สะพานพระราม 8 : Dek-D.com - Writer

    สะพานพระราม 8

    ค่าโดยสารแท็กซี่มีปัญหา

    ผู้เข้าชมรวม

    147

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    147

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  2 ก.พ. 58 / 22:04 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

     

                เป็นวันที่ทัศนวิสัยดีที่สุดวันหนึ่ง เครื่องบินโดยสารทะยานขึ้นจากสนามบิน     นครศรีธรรมราชแล้วค่อยๆปรับเพดานบินเมื่ออยู่ในระดับทีบินตามปกติก็เริ่มทรงตัวทะยานผ่านกลุ่มเมฆขึ้นไปอยู่เหนือเมฆที่มีสีสรรสวยงามเมื่อกระทบแสงแดดในยามเช้า  เครื่องใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงเสียงแอร์โฮสเตสก็ดังมาตามสายประกาศให้ผู้โดยสารปรับเก้าอี้ให้อยู่ในสภาพที่ปกติและให้ผู้โดยสารทุกคนรัดเข็มขัดเครื่องบินจะร่อนลงที่รันเวย์สนามบินดอนเมือง

                    วโรทัยสะกิดนิรนุชให้เตรียมตัวลงจากเครื่องบินเมื่อเครื่องจอดสนิททั้งสองก้าวลงจากเครื่องบินเดินตามหลังผู้โดยสารคนอื่นๆที่นั่งอยู่ด้านหน้าและเริ่มทะยอยออกจากเครื่องบิน วโรทัยเดินหิ้วกระเป๋าเคียงคู่กับนิรนุชมาตามงวงช้างเดินเกาะกลุ่มมากับผู้โดยสารที่เดินทางมาจากเที่ยวบินนครศรีธรรมราช-กรุงเทพฯเพื่อเดินไปยังสายสะพานเพื่อรับกระเป๋าที่โหลดมากับสายการบิน  เมื่อเดินมาถึงสายสะพานที่โหลดกระเป๋าทั้งสองก็ยืนรออยู่ครู่หนึ่งสายสะพานก็หมุนกระเป๋ามาถึงทั้งสองจึงหยิบกระเป๋าทั้งสองใบแล้วก้าวเดินออกมาที่ห้องสุขาเมื่อทำธุระเสร็จแล้วก็เดินออกมาที่หน้าอาคารผู้โดยสายเพื่อรอแท็กซี่ที่คิวแท็กซี่ของสนามบิน  เขายืนรออยู่ครู่ใหญ่ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างประเทศมีคนไทยเพียงสองสามคนเท่านั้นเอง

                    ความจริงการเดินทางมาจากนครศรีธรรมราชเข้ากรุงเทพฯเขาจะเดินทางโดยรถทัวร์นานๆครั้งจึงจะโดยสารเครื่องบินเข้ากรุงเทพฯเมื่อสายการบินมีโปรโมชั่นให้จองเป็นพิเศษ กรุงเทพฯเมืองหลวงอันใหญ่โตแห่งนี้เขาไม่ค่อยชินกับมันนักหรอกถึงแม้นจะเดินทางมาบ่อยๆทุกๆสองสามเดือนเพราะเขาไม่ค่อยจะรู้จักกับถนนหนทางในกรุงเทพฯมากนัก อาศัยเดินทางโดยรถทัวร์บ่อยๆจึงสามารถจำเส้นทางจากสถานีขนส่งสายใต้ไปยังที่พักได้  แต่เมื่อโดยสารโดยเครื่องบินเขาจึงไม่ค่อยชินกับเส้นทางจากสนามบินดอนเมืองเพื่อไปยังที่พักแถวๆบางยี่ขันได้  หลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จเขาก็พยักหน้านิรนุชภรรยาให้เดินออกมาจากอาคารมายืนเข้าคิวเพื่อเรียกแท็กซี่ไปยังบางยี่ขัน เขาตั้งกระเป๋าให้นิรนุชยืนรออยู่ที่ด้านหน้าคิวแท็กซี่ส่วนเขาเดินเข้ามารับบัตรคิวเพื่อเรียกแท็กซี่

                    “ไปไหนครับ?”

                    “ไปพระราม 8 บางยี่ขันครับ” เจ้าหน้าที่จัดคิวเรียกแท็กซี่ที่ไปบางยี่ขันวโรทัยพยักหน้านิรนุชแล้วทั้งสองก็หิ้วกระเป๋าขึ้นไปนั่งบนรถแท็กซี่

                    “ไปไหนครับ” โชเฟอร์หันมาถามเพื่อความแน่ใจ

                    “ไปคอนโดเชิงสะพานพระราม 8”

                    “สะพานพระราม 8ไปทางสะพานพระรามห้าใช่ไหม?” วโรทันฉุนกึกเขาเริ่มเอะใจและรู้สึกว่าโชเฟอร์แท็กซี่คนนี้ไม่ค่อยชำนาญทางเท่าไหร่นักหรือไม่ก็กำลังแกล้งถามดูว่าผู้โดยสารรู้เส้นทางไหมถ้าผู้โดยสารไม่รู้เส้นทางก็จะได้ขับวกวนเพื่อให้มิเตอร์ขึ้นมากๆวโรทัยขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ  เส้นทางที่จะไปพระราม 8 เขาหวังจะพึ่งเท็กซี่ให้พาไปยังที่พักแต่นี่แท็กซี่กลับดันมาถามเขาเสียเองบ้าชะมัดเขาจะรู้ได้อย่างไรเขาไม่ใช้คนกรุงเทพฯเขาจะรู้เส้นทางได้อย่างไร”บ้าฉิบหาย” เขานึกด่าในใจ  วโรทัยเริ่มหวาดระแวงว่าโชเฟอร์แท็กซี่จะคิดไม่ซื่อเพราะเห็นว่าเขาและภรรยาเดินทางมาจากต่างจังหวัด  ถึงแม้ว่าเขาจะเดินทางเข้ามากรุงเทพบ่อยๆเพื่อมาเยี่ยมลูกแต่เขาก็จำเส้นทางในกรุงเทพฯไม่ได้มากนักเพราะการเดินทางเมื่อมาถึงกรุงเทพฯเขาจะใช้บริการแท็กซี่เป็นส่วนใหญ่ไม่ได้ใช้บริการรถเมล์เท่าใดนักเขาจำได้แต่จุดใหญ่ๆตามเส้นทางระหว่างสายใต้ใหม่กับคอนโดพระราม 8 ถ้าเดินทางมาจากปักษ์ใต้ด้วยรถทัวร์  แต่เมื่อเดินทางมากรุงเทพฯด้วยเครื่องบินเขาช่างมืดเสียจริงๆต้องแล้วแต่ดวงถ้าเจอแท็กซี่ดีๆก็เสียค่าโดยสารไม่ถึงสองร้อยแต่ถ้าเจอแท็กซี่ที่ฉวยโอกาสที่เห็นว่าผู้โดยสารเดินทางมาจากต่างจังหวัดไม่รู้เส้นทางในกรุงเทพฯก็แกล้งขับรถวกวนเพื่อให้มิเตอร์ค่าโดยสารขึ้นมากๆ  ถ้าเป็นเส้นทางจากสายใต้ไปสะพานพระรามแปดเขาพอจำได้บ้างว่านั่งรถแท็กซี่ผ่านห้างพาต้าปิ่นเกล้าผ่านแยกอรุรอมรินทร์เลี้ยวซ้ายไปทางบางยี่ขันผ่านวัดน้อยนางหงส์ วัดบางยี่ขันจึงถึงคอนโดที่พักก่อนที่จะถึงสะพานพระราม 8   แต่จากสนามบินดอนเมืองไปยังสะพานพระรา 8 เขามืดจริงๆ   เขาลอบสังเกตดูโชเฟอร์แท็กซี่ด้วยความหวาดระแวงว่าจะเล่นไม่ซื่อ  แต่พอดูบุคลิกลักษณะเป็นแท็กซี่แก่ๆดูไม่น่าจะเจ้าเล่ห์อะไรมากนัก

                    “คุณมาจากไหนหรือครับ?”

                    “ผมมาจากนคร”

                    “เดินทางจากปักษ์ใต้นานไหมครับกว่าที่จะถึงกรุงเทพฯ?”

                    “ชั่วโมงเดียว”

                    “ผมไม่รู้เมื่อไหร่จะได้นั่งเครื่องบินกะเขามั่ง”...ไม่เคยขึ้นเครื่องเลยสักครั้ง...อยากจะพาลูกเมียเดินทางไปปักษ์ใต้โดยเครื่องบินสักครั้ง....ที่ผมอยากไปมากที่สุดคือเกะสมุย....ที่พวกฝรั่งชอบไปนอนอาบแดด...แต่ค่าเครื่องบินมันหลายตัง....คงหาโอกาสเที่ยวยากเหลือเกิน...เพราะต้องจ่ายเงินไปกับสิ่งที่จำเป็นต่อการอยู่รอดของครอบครัวก่อน” โชเฟอร์แท็กซี่พูดพร้อมถอนใจลึกๆ

                    “ราคาค่าโดยสารแพงไหมครับ?”

                    “สองพันกว่าบาท...แต่บางสายการบินเขามีโปรโมชั่นค่าโดยสารถูกว่ารถทัวร์ซะอีก”

                    “งั้นหรือครับ?”

                    “แต่การจองตัวเครื่องบินในช่วงที่สายการบินเขามีโปรโมชั่น...ต้องจองผ่านอินเทอร์เนต...พวกเราไม่ทันพวกเด็กๆหรอกถ้าอาศัยลูกหลานช่วยจองให้...บางช่วงไปกลับนครแค่สามร้อยบาทก็มี”

                    “ถูกถึงขนาดนั้นเชียวหรือครับ?”

                    “ถูกกว่ารถทัวร์ซะอีก” วโรทัยลอบชำเลืองดูเส้นทางไปด้วยเพื่อจดจำ...แต่เส้นทางที่แท็กซี่ขับพาเขากับนิรนุชมันไม่ได้ไปทางสะพานพระราม 7 ดูจากตึกรามสองข้างทางโชเฟอร์ขับรถพาเขามาทางนนทบุรีผ่านวัดเขมาฯเขาเริ่มอึดอัดนึกไม่พอใจโชเฟอร์แท็กซี่งดูตามพฤติการณ์ตามความคิดของเขาโชเฟอร์คนนี้กำลังจะเล่นไม่ซื่อขับรถวกวนเวลาผ่านไปเป็นชั่วโมงแล้วเขาเหลือบดูมิเตอร์ราคาค่าโดยสารขึ้นไปเป็น 140  บาทแล้วยังไม่มีทีท่าว่าจะถึงสะพานพระราม 8 วโรทัยชำเลืองดูโชเฟอร์ด้วยความไม่พอใจ

                    “สะพานพระราม 8 อยู่ตรงไหนหรือครับ” โชเฟอร์เอ่ยถามจนเขารู้สึกฉุนกึก

                    “คุณไม่รู้จักสะพานพระราม 8 แล้วคุณมาขับรถแท็กซี่ได้ยังไง?” เขาพูดด้วยน้ำเสียงขุ่นมัว  เขาเหลือบดูโชเฟอร์เห็นเหงื่อแตกพลักเต็มใบหน้า  เขาเริ่มลังเลโชเฟอร์คนนี้มาไม้ไหนกับเขาแน่เขาไม่รู้เส้นทางจริงๆหรือว่าเขาเล่ห์เหลี่ยมกันแน่เพราะเห็นว่าเขาและภรรยามาจากต่างจังหวัดก็เลยฉวยโอกาส

                    “เมื่อไหร่จะถึงซะที..ขับรถอยู่ได้ไง?จากดอนเมืองไปพระราม 8 ความจริงใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงถ้ารถไม่ติด...คุณขับมาชั่วโมงกว่าแล้วยังหาห้างพาต้าปิ่นเกล้าไม่พบเลย?” วโรทัยพูดด้วยเสียงกระชากๆ  เขานึกจะลงกลางทางเพื่อโบกรถแท็กซี่คันใหม่แต่นิรนุชสะกิดห้ามไว้และใช้สายตาปรามให้เขาใจเย็นๆเขาจึงสงบสติอารมณ์ทำใจว่าไหนๆก็เสียเวลาแล้วจะแก้อย่างไรก็ไม่ได้มีอย่างเดียวคือปล่อยให้โชเฟอร์แท็กซี่คลำหาเส้นทางที่จะไปคอนโดพระราม 8 ให้ได้

                    “คุณหาพ้างพาต้าปิ่นเกล้าหรือห้างเซ็นทรัลปิ่นเกล้าให้เจอก่อนไม่เช่นนั้นคุณไปไม่ถูกหรอก” วโรทัยเริ่มสงบอารมณ์ลงได้เมื่อมั่นใจว่าโชเฟอร์แท็กซี่คนนี้คงไม่รู้จักเส้นทางจริงๆไม้ได้เสแสร้งขับวกวนเหมือนอย่างที่เขาคิดครั้งแรก วโรทัยตัดสินใจโทรศัพท์หาลูกสาวๆลูกสาวถามเส้นทางว่าตอนนี้รถอยู่ที่บริเวณใดเขาก็ตอบลูกสาวไม่ได้เพราะบริเวณนี้เขาไม่เคยผ่านมาเลยในที่สุดเขาก็ตัดสินใจปิดโทรศัพท์นึกโมโหคนขับแท็กซี่ที่ขับรถรับผู้โดยสารโดยที่ตัวเองก็ไม่รู้เส้นทางอะไรเลยแม้แต่เส้นทางที่ผ่านจุดสำคัญๆ ถ้าเป็นตรอกซอกซอยเขาไม่นึกตำหนิคนขับแท็กซี่ดอกแต่นี่ห้างใหญ่ๆโชเฟอร์ที่พาเขามาก็ยังไม่สามารถหาเจอ  เวลาผ่านไปเกือบสองชั่วโมงมิเตอร์ขึ้นไปสองร้อยพอดีวโรทัยยิ่งหงุดหงิดอีกครั้งเมื่อแท็กซี่เอ่ยขึ้น

                “นั่นใช่ไหมครับพระราม 8” แท็กซี่ชะลอความเร็วรถเข้าชิดฟุตปาทวโรทัยเหลือดูตามเส้นทางที่โชเฟอร์บอกเขาก็ยิ่งงงวยเพราะมองไม่เห็นสะพานพระรามแปดตามที่โชเฟอร์แท็กซี่บอก

                “ไหนละสะพานพระราม  8 ” วโรทัยเอ่ยถามอีกครั้งด้วยความสงสัย

                “นั่นไง?”โชเฟอร์แท็กซี่ชี้ให้เขาดู  วโรทัยมองเท่าไหร่ก็ไม่เห็นสะพานพระราม 8 เห็นแต่สะพานลอย  เขานึกในใจแท็กซี่คันนี้บ้าหรือเปล่าชี้สะพานลอยแล้วบอกว่าสะพานพระราม 8  เขานึกฉุนกึกขึ้นมาอีก

                “สะพานพระราม 8  บ้าอะไรของคุณนั่นมันสะพานลอยชัดๆ” วโรทัยหันมาพูดด้วยเสียงเครียดๆอย่างไม่เกรงใจอีกแล้ว  เขานึกในใจแท็กซี่คันนี้ถ้าจะไม่ค่อยสบายหรือไม่ก็ไม่เต็มเต็ง เขาเริ่มแน่ใจว่าแท็กซี่คันนี้คงจะไม่รู้จักสะพานพระราม 8 จริงๆไม่เช่นนั้นคงไม่ขับรถงมเข็มในมหาสมุทรอย่างนี้หรอก

                “หาห้างพาต้าให้เจอ...ไม่ยังงั้นผมลงแล้วไม่ให้ค่ารถ” วโรทัยแกล้งยื่นคำขาดด้วยหมดหนทางที่จะแก้ปัญหา

                “อ้อ...ผมนึกออกแล้วเลี้ยวซ้ายที่สี่แยกไฟแดงนี่ก็ถึงห้างพาต้าปิ่นเกล้าแล้วละ” โชเฟอร์แท็กซี่พูดด้วยเสียงแสดงความดีใจ  วโรทัยเหลือบดูสองข้างถนนก็เห็นรถแท็กซี่ขับรถผ่านห้างเซ็นทรัลปิ่นเกล้าข้างหน้าไม่ไกลนักก็เห็นห้างพาต้า  เขาเป่าลมออกจากปากด้วยความโล่งออกกว่าจะคลำเส้นทางพบใช้เวลาเอาสองชั่วโมงกว่าทั้งๆที่รถไม่ติด

                “เลี้ยวซ้ายไปทางบางยี่ขัน...คอนโดยอยู่ใกล้สะพารนพระราม 8” วโรทัยพูดย้ำกลัวแท็กซี่จะขับผิดเส้นทางจนเขาเสียเวลาอีกเป็นชั่วโมงๆ ไม่ถึงสิบนาทีรถก็แล่นผ่านวัดน้อยนางหงส์ ก็เริ่มเห็นยอดเสาสะพานพระราม  8

    “ขับเลี้ยวซ้ายเข้าไปในตัวอาคารเลย” เขาพูดด้วยเสียงห้วนๆเพราะอารมณ์เสียยังตกค้างอยู่ เขาเหลือบดูที่มิเตอร์บอกราคา 300 กว่าบาท เขานึกฉุนกึกขึ้นมาอีก”ขับบ้าอะไรวะจากดอนเมืองมาที่สะพานพระราม 8 เสียค่าแท็กซี่ตั้ง 360บาท ที่เคยนั่งแท็กซี่ก่อนๆก็แค่ร้อยห้าสิบกว่าบาทหรือใกล้ๆสองร้อยถ้ารถติดบวกค่าคิว

                “จอดตรงนี้”วโรทัยพูดห้วนๆอารมณ์ยังตกค้างด้วยความไม่พอใจ

                “เอานี่ค่าแท็กซี่สองร้อยพอความจริงผมนั่งมาหลายเที่ยวแล้วแค่ร้อยห้าสิบกว่าบาท..นี่คุณพาหลงทำให้ผมเสียเวลาและเสียเงินเพิ่มเป็นเท่าตัว” วโรทัยพูดจบก็หยิบเงินใบละร้อยสองใบส่งให้

            “ผมต้องขอโทษจริงๆครับ....ผมเพิ่งหัดวิ่งรับผู้โดยสารแค่ 10 วันเท่านั้นเองผมขอแค่ร้อยห้าสิบพอครับ” โชเฟอร์แท็กซี่พูดพร้อมกับส่งเงินทอนให้วโรทัยห้าสิบบาท  วโรทัยหันไปมองโชเฟอร์แท็กซี่ด้วยความแปลกใจ  ความจริงแล้วเขาคิดมาตลอดทางว่าแท็กซี่คันนี้เจ้าเล่ห์หากินด้วยความไม่ซื่อสัตย์ใช้ความได้เปรียบหลอกผู้โดยสารที่มาจากต่างจังหวัดขับรถวกไปวนมาเพื่อให้ได้ค่าแท็กซี่มากๆแต่นึ่เขาเริ่มแน่ใจแล้วว่าแท็กซี่คันนี้ไม่รู้เส้นทางจริงๆและเพิ่งหัดขับโดยสารจริงๆเพราะเขาไม่รู้จักสะพานพระรามแปดซึ่งเป็นจุดใหญ่ๆในกรุงเทพฯเขาเริ่มใจอ่อนและเห็นใจจึงยื่นเงินทอนให้กลับและล้วงกระเป๋าหยิบเงินใบละร้อยส่งให้อีกใบแล้วหิ้วกระเป๋าเดินหันหลังขึ้นคอนโดไปด้วยหัวใจที่ปรอดโปร่งหายขุ่นมัว..........................

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×